in

7 เคล็ดลับความปลอดภัย ใช้ สว่าน ยังไงให้ไม่พัง ไม่พลาด ไม่เจ็บตัว ?

ถ้าพูดถึงเครื่องมือช่างสารพัดประโยชน์ที่ควรมีไว้ใช้งาน สว่าน คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์แทบทุกสถานการณ์ครับ จะเป็นงานติดตั้งชั้นวางของ เจาะผนังแขวน หรือประกอบเฟอร์นิเจอร์เอง สว่านก็ช่วยให้งานเสร็จง่ายขึ้นเยอะ แม้มันจะดูเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย แค่เสียบปลั๊ก หรือใส่แบตแล้วกดปุ่มก็ใช้งานได้ทันที แต่ ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง หรือไม่เข้าใจวิธีการใช้ที่ถูกต้อง ความพลาด ก็เกิดขึ้นได้เหมือนกันครับ

บางคนเจอสว่านไหม้ สว่านช็อต ดอกหัก เจาะผิดตำแหน่ง หรือแย่กว่านั้นคือเจ็บตัวจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ ที่จริง ๆ แล้วป้องกันได้ ถ้ารู้หลักการพื้นฐาน และรู้จักเช็คสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนใช้งาน

วันนี้ผมเลยอยากมาแชร์ ความปลอดภัย ในการใช้สว่าน ที่จะช่วยให้คุณเจาะได้แม่น ใช้งานได้ยาวนาน และที่สำคัญคือ “เซฟ” ทั้งตัวคน และเครื่องมือครับ ใครที่เพิ่งเริ่มใช้ หรือคนที่ใช้สว่านมานานแต่ยังไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้มากนัก ลองอ่านดูนะครับ อาจช่วยประหยัดทั้งค่าอะไหล่ และค่ารักษาได้ไม่น้อยเลย

1. เลือกสว่านให้เหมาะกับประเภทงานก่อนใช้เสมอ

ก่อนจะหยิบสว่านมาใช้ คำถามแรกที่ควรถามตัวเองคือ “เราจะเจาะอะไร?” ครับ เพราะวัสดุที่ต่างกัน ก็ต้องการสว่าน และดอกสว่านที่ต่างกันด้วย เช่น สว่านส่วนใหญ่เจาะไม้ได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะเจาะปูนควรใช้สว่านกระแทก หรือถ้าต้องเจาะคอนกรีตหนา ๆ ก็ควรใช้สว่านโรตารี่ไปเลย

การเจาะวัสดุแต่ละประเภท ต้องเลือกยังไง?

  • เจาะไม้: ใช้สว่านธรรมดา หรือสว่านไร้สายก็พอ เลือกดอกสว่านเจาะไม้โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีปลายแหลม และใบคมสองด้าน ช่วยคว้านไม้ได้เรียบสวย ไม่แตก
  • เจาะเหล็ก หรือโลหะ: ใช้สว่านที่มีแรงบิดสูง และดอกสว่านเจาะเหล็ก (มักเป็นโคบอลต์ หรือไฮสปีดสตีล HSS) ต้องตั้งรอบต่ำ ไม่ควรเร่งรอบเร็วเพราะจะทำให้ดอกไหม้เร็ว
  • เจาะปูน/อิฐ: ใช้สว่านกระแทก ร่วมกับดอกสว่านเจาะปูน ซึ่งมีปลายคาร์ไบด์แข็ง ๆ และบ่าเล็กน้อยเพื่อกระแทกพร้อมหมุน เจาะได้ทั้งอิฐแดง และผนังฉาบปูน
  • เจาะคอนกรีต: ใช้สว่านโรตารี่ร่วมกับดอก SDS, SDS-plus หรือ SDS-max แล้วแต่ขนาด และเครื่อง สว่านโรตารี่จะมีระบบกระแทกภายใน ช่วยให้เจาะได้เร็วกว่าแบบกระแทกทั่วไป

การหยิบสว่านผิดประเภทมาใช้งานอาจไม่ทำให้เกิดอันตรายทันที แต่จะทำให้งานล่าช้า เครื่องพังไว หรือดอกสว่านหักกลางทาง เช่น ใช้สว่านธรรมดาเจาะผนังอิฐ อาจทำให้มอเตอร์ร้อนจนไหม้ หรือใช้ดอกเจาะไม้ไปเจาะเหล็ก ก็ทำให้ดอกสึกเร็ว และเกิดแรงต้าน สะท้านได้ง่าย

พูดง่าย ๆ คือ รู้จัก ประเภทของสว่าน และเลือกให้ตรงกับงานก่อนเริ่มเจาะ คือขั้นตอนความปลอดภัยพื้นฐานที่ควรฝังไว้ในหัวเลยครับ

2. ตรวจสภาพสว่าน และอุปกรณ์ก่อนใช้งาน

ก่อนเริ่มใช้ทุกครั้ง อย่าลืมตรวจสอบสภาพของสว่านเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นมีสาย หรือไร้สาย ให้ดูว่าปลั๊กไฟ สายไฟ หรือแบตเตอรี่มีรอยฉีกขาดไหม สวิตช์กดทำงานปกติ หรือเปล่า รวมถึงเช็คว่าหัวจับดอกแน่นดีไหม ดอกสว่านมีรอยแตกร้าวหรือบิ่น หรือเปล่า

ความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างสายไฟขาดใน หรือหัวจับดอกหลวม อาจดูไม่น่ากลัว แต่ในขณะใช้งานจริงอาจทำให้เกิดประกายไฟ ไฟดูด หรือดอกกระเด็นได้เลย ยิ่งเวลาเจาะวัสดุแข็งที่แรงสะท้อนกลับสูงมาก ถ้าหัวจับไม่แน่น ก็มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ครับ

และที่สำคัญคือ ห้ามลืมดึงแบตเตอรี่ออก (สว่านไร้สาย) หรือถอดปลั๊กออก (สว่านไฟฟ้า) ทุกครั้งก่อนจะเปลี่ยนดอก หรือเช็กเครื่อง เพื่อป้องกันการกดปุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจครับ

จุดที่ควรตรวจสอบเสมอก่อนใช้งาน

  • สายไฟ หรือแบตเตอรี่: ไม่มีรอยฉีกขาดหรือบวม
  • หัวจับดอก: แน่นหนา ไม่โยกคลอน
  • ดอกสว่าน: ไม่มีรอยบิ่น หรือหักปลาย
  • ปุ่มเปิด-ปิด และทิศทางหมุน: ทำงานได้อย่างลื่นไหล
  • เสียงเครื่อง: ไม่มีเสียงผิดปกติเมื่อกดเดินเครื่องเบา ๆ

3. ใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกายให้ครบถ้วน

แม้การเจาะรูจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่เศษวัสดุที่กระเด็น เศษเหล็ก เสี้ยนไม้ หรือฝุ่นจากปูน ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ทำร้ายร่างกายเราได้โดยตรง โดยเฉพาะดวงตา และระบบหายใจ ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดควรมีแว่นตานิรภัยกับหน้ากากกันฝุ่นทุกครั้งที่ใช้สว่านครับ

นอกจากนี้ถ้าเป็นงานเจาะหนัก หรือมีโอกาสเจอเศษวัสดุกระเด็นแรง ๆ เช่น สว่านโรตารี่เจาะคอนกรีต ควรใส่ถุงมือหนา และรองเท้านิรภัยด้วย ส่วนคนที่ผมยาว หรือใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ ควรมัดผม หรือพับแขนเสื้อให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงาน เพราะมีหลายกรณีที่ผม หรือชายเสื้อไปพันกับหัวสว่านแล้วเกิดอุบัติเหตุครับ

อุปกรณ์นิรภัยอาจดูเกะกะไปนิด แต่ช่วยเซฟเราได้มากจริง ๆ ครับ

4. ตั้งรอบ และแรงบิดให้เหมาะกับวัสดุ

หลายคนเจอปัญหา หัวน็อตบาด หรือ ดอกสว่านไหม้ เพราะตั้งรอบไม่เหมาะกับงานที่ทำ เช่น ใช้รอบสูงเกินไปกับวัสดุอ่อน หรือใช้แรงบิดเกินความจำเป็น ยิ่งเวลาใช้สว่านเป็นไขควงไฟฟ้า ถ้าใช้แรงบิดเยอะเกินไป น็อตอาจขาด หรือฝังลึกเกินไปจนกินเนื้องาน

สว่านรุ่นใหม่ ๆ จะมีระบบปรับรอบ และมีคลัตช์ให้เลือกแรงบิดด้วย ลองปรับใช้ให้เหมาะกับวัสดุ เช่น เจาะไม้ใช้รอบกลางถึงสูง เจาะเหล็กใช้รอบต่ำแต่ต่อเนื่อง หรือถ้าใช้ขันน็อตก็ควรเริ่มจากแรงบิดน้อยก่อน แล้วค่อยเพิ่มตามความเหมาะสม

ส่วนตัวผมคิดว่าการค่อย ๆ ลองปรับรอบทีละนิดก่อนเริ่มจริง ช่วยให้ควบคุมงานได้แม่นกว่าเปิดรอบสุดทันทีครับ และยังช่วยยืดอายุเครื่องกับดอกอีกด้วย

ตัวอย่างการตั้งรอบและแรงบิดให้เหมาะกับงาน

  • งานไม้ทั่วไป: ใช้รอบกลาง-สูง แรงบิดปานกลาง
  • เจาะเหล็ก/โลหะ: ใช้รอบต่ำ คงที่ เพื่อไม่ให้ดอกไหม้
  • ขันน็อตหรือประกอบเฟอร์นิเจอร์: ใช้แรงบิดต่ำสุดก่อน แล้วค่อยเพิ่มตามความจำเป็น
  • เจาะปูน/คอนกรีต: ใช้สว่านกระแทก หรือโรตารี่ ตั้งรอบกลาง มีโหมดกระแทกเสริม
  • วัสดุเปราะบาง เช่น กระเบื้อง: ใช้รอบต่ำมาก ไม่ใช้แรงกระแทก และค่อย ๆ เจาะด้วยความระมัดระวัง  

วิธีปรับรอบสว่านให้เหมาะกับแต่ละประเภทงาน

  • ถ้าใช้ สว่านไร้สาย รุ่นทั่วไป มักมีตัวหมุนปรับรอบ หรือแรงบิดอยู่ที่หัวเครื่อง หมุนไปที่หมายเลขที่ต่ำก่อนเสมอ แล้วค่อยเพิ่มหากต้องการพลังมากขึ้น
  • สำหรับ สว่านมีสาย รุ่นที่ปรับรอบได้ มักจะมีสวิตช์แบบกดที่ควบคุมรอบด้วยแรงกด (ยิ่งกดแรงยิ่งรอบสูง) บางรุ่นมีตัวหมุนล็อกรอบด้วย ให้เลือกใช้ตามความต้องการ
  • สว่านโรตารี่ หรือสว่านกระแทกบางรุ่น อาจไม่มีระบบปรับรอบมากนัก ให้ควบคุมด้วยระยะเวลากด และแรงกดแทน

5. จับสว่านให้มั่น ใช้งานด้วยสองมือเสมอ

ถึงแม้สว่านจะเป็นเครื่องมือขนาดกะทัดรัด แต่เวลาหมุนด้วยแรงสูงหรือเจาะวัสดุแข็ง มันอาจ “สะบัด” ได้แรงจนน่าตกใจเลยครับ ถ้าใช้มือเดียวถือไว้เฉย ๆ โดยไม่ตั้งท่าดี ๆ ก็อาจหลุดมือ หรือหมุนบาดตัวเราเองได้

วิธีที่ปลอดภัยที่สุด คือการจับสว่านด้วยสองมือเสมอ มือหนึ่งจับด้ามหลัก อีกมือประคองตรงด้ามเสริม (ถ้ามี) หรือใช้มือช่วยกดให้สว่านอยู่ในแนวที่ควบคุมได้ง่าย ยิ่งเมื่อต้องเจาะในแนวตั้ง เช่น เจาะเพดานหรือเจาะพื้น ซึ่งแรงโน้มถ่วงจะทำให้ควบคุมเครื่องได้ยากขึ้น

นอกจากนี้การยืนในท่าที่มั่นคง (แล้วแต่ถนัด) และล็อกชิ้นงานให้แน่น จะช่วยลดโอกาสเครื่องสะบัดและทำให้งานแม่นยำขึ้นด้วยครับ

เคล็ดลับเสริมสำหรับการจับสว่านให้มั่นคง

  • หลีกเลี่ยงการจับสว่านที่ส่วนปลายหรือส่วนหมุน เพราะอาจร้อน หรือหมุนสวนมือ
  • ใช้ด้ามเสริม (ถ้ามี) เพื่อเพิ่มแรงคุมทิศทาง โดยเฉพาะเมื่อเจาะวัสดุแข็ง
  • ไม่ควรยืนบนพื้นลื่น ควรใส่รองเท้าที่เกาะพื้นดี และยืนให้นิ่งก่อนกดเครื่อง
  • จัดสรีระให้อยู่ในท่าทางที่ไม่ทำให้ปวดหลัง หรือเมื่อยง่ายในระยะยาว

6. เลือกดอกสว่านให้ตรงกับงาน และไม่ใช้ดอกที่สึกแล้ว

ดอกสว่านก็เป็นเหมือนใบมีดของเครื่องมือ ถ้าเลือกผิด หรือลืมเช็คว่าดอกยังอยู่ในสภาพดี หรือไม่ ก็มีสิทธิ์ทำให้งานพัง หรือทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไปได้ง่าย ๆ

ดอกสำหรับเจาะไม้กับดอกเจาะปูนต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ทั้งวัสดุ ปลายคม และรูปทรง ถ้าใช้ผิดประเภท เช่น เอาดอกเหล็กไปเจาะกระเบื้อง อาจเจาะไม่เข้า แถมยังเสี่ยงทำกระเบื้องแตกร้าวด้วย ส่วนดอกสึก หรือดอกหักบิ่น แม้เพียงนิดเดียวก็ทำให้เกิดการสะท้าน แรงกระชาก หรือเสียงผิดปกติระหว่างใช้งานได้

แนะนำว่าควรมีชุดดอกสว่านที่แยกตามประเภทงาน และหมั่นตรวจสอบว่าคมยังอยู่ดีหรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าเจาะแล้วฝืด ผงวัสดุออกมาน้อย หรือมีเสียงดัง ควรหยุดเพื่อเช็คทันทีครับ

ดอกสว่าน แต่ละประเภทมีอะไรบ้าง และเลือกยังไงดี?

  • ดอกเจาะไม้: ปลายแหลม มีใบคมช่วยคว้าน ใช้กับไม้เนื้อแข็ง-อ่อน งานช่างไม้ทั่วไป
  • ดอกเจาะเหล็ก: ทำจาก HSS หรือโคบอลต์ ทนความร้อนสูง ใช้กับโลหะหรือสเตนเลส
  • ดอกเจาะปูน/อิฐ: ปลายคาร์ไบด์ ทนกระแทกสูง ใช้กับสว่านกระแทก หรือโรตารี่
  • ดอกเจาะกระเบื้อง/แก้ว: ปลายคล้ายหอก หัวเจาะเคลือบเพชร ต้องใช้รอบต่ำ เจาะอย่างเบามือ
  • ดอก Hole Saw (โฮลซอว์): ใช้เจาะรูขนาดใหญ่ในไม้ โลหะ หรือพลาสติก ใช้กับหัวจับพิเศษ

เลือกดอกให้ตรงกับวัสดุที่จะเจาะเสมอ และถ้าไม่แน่ใจว่าดอกนั้นใช่ หรือไม่ ให้ลองกับชิ้นงานทดสอบก่อนเจาะของจริงครับ

7. ทำเครื่องให้เย็น และพักเป็นระยะ

การใช้สว่านติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะสว่านไร้สาย หรือสว่านราคาย่อมเยา อาจทำให้เครื่องร้อนจนเกินขีดจำกัดของมอเตอร์ได้ บางกรณีถึงขั้นไหม้ หรือส่งกลิ่นไหม้ออกมาได้เลยครับ ซึ่งถ้ายังฝืนใช้งานต่อ อาจทำให้เครื่องพังโดยถาวร

สิ่งที่ควรทำคือ ใช้เป็นช่วง ๆ เช่น ใช้งาน 5-10 นาที พักให้เครื่องเย็นสัก 2-3 นาที ยิ่งถ้าต้องเจาะวัสดุแข็ง หรือใช้แรงสูงตลอดเวลา และถ้าเป็นรุ่นไร้สาย ควรมีแบตสำรอง และสลับใช้งาน เพื่อไม่ให้แบตร้อนเกินไปเช่นกัน

อย่าลืมว่าการใช้งานอย่างทะนุถนอม จะช่วยยืดอายุเครื่องมือได้อีกยาวครับ

สิ่งที่ควรทำเมื่อเครื่องเริ่มร้อน:

  • หยุดใช้งานทันทีถ้ามีกลิ่นไหม้ หรือเสียงผิดปกติ
  • พักเครื่องประมาณ 2-5 นาทีทุกรอบการใช้งานหนัก
  • ใช้พัดลมเป่าระบายความร้อนช่วยในกรณีที่ใช้ต่อเนื่องในที่อากาศร้อน
  • เตรียมแบตเตอรี่สำรองไว้สลับในกรณีใช้สว่านไร้สาย
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานต่อเนื่องนานเกิน 15 นาทีโดยไม่พัก

สรุป

ทั้งหมดที่เล่ามา อาจฟังดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ใคร ๆ ก็รู้อยู่แล้วใช่ไหมครับ? แต่หลายครั้งอุบัติเหตุก็เกิดจาก เรื่องเล็ก ๆ ที่เรารู้ แต่ไม่ได้ทำนี่แหละ เพราะคิดว่าแค่เจาะรูเอง เดี๋ยวก็เสร็จ แต่พอเจาะพลาดครั้งเดียว อาจเสียทั้งวัสดุ เครื่องมือ หรือบาดเจ็บแบบไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยครับ

สิ่งที่อยากชวนให้คิดต่อคือ การใช้สว่านมันไม่ได้จบแค่กดปุ่มแล้วเจาะครับ แต่มันคือการเข้าใจเครื่องมือที่เราถืออยู่ ใช้มันอย่างมีวินัย มีสติ และเตรียมตัวให้พร้อมทุกครั้ง เพราะเครื่องมือทรงพลังนั้นจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ดี ถ้าเราใช้มันอย่างถูกต้อง

หวังว่าบทความนี้ จะไม่ใช่แค่บอกให้ระวัง แต่จะชวนให้คุณย้อนกลับไปมองสว่านในอีกมุมนึง ลองเช็ค ลองศึกษาการใช้งานเพิ่มเติมอีกนิด เพื่อให้การเจาะทุกครั้ง มั่นใจขึ้น ปลอดภัยขึ้น และใช้งานได้นานขึ้น

Written by David

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เคลียร์ให้กระจ่าง รวมคำถาม เครื่องขัดกระดาษทรายกลม ที่พบบ่อย